วัดเบญจมบพิตร หรือชื่อเดิมเรียกว่า วัดแหลมหรือวัดไทรทอง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามว่า วัดเบญจบพิตร หมายถึง วัดของเจ้านาย ๕ พระองค์ที่ร่วมปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้
The Marble Temple
วัดเบญจมบพิตร หรือชื่อเดิมเรียกว่า วัดแหลมหรือวัดไทรทอง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามว่า วัดเบญจบพิตร หมายถึง วัดของเจ้านาย ๕ พระองค์ที่ร่วมปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้
ในสมัยรัชกาลที่ ๕ พระองค์มีพระราชประสงค์จะทรงสร้างพระราชอุทยาน จึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดซื้อที่ดินบริเวณนี้พระราชทานนามว่า “สวนดุสิต” การสร้างสวนดุสิตได้มีการใช้พื้นที่ของวัดเบญจบพิตรที่ชำรุดทรุดโทรมอยู่ใกล้เขตพระราชฐานด้านทิศใต้ จึงมีพระราชดำริที่จะทรงทำผาติกรรมสถาปนาวัดขึ้นใหม่แห่งหนึ่ง พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดเบญจมบพิตร"
จุดเด่นภายในวัด
จุด Check in ภายในวัด
มีลักษณะเป็นมุขกระสันต่อจากมุขพระอุโบสถ พื้นระเบียงปูหินอ่อน รอบ ๆ พระระเบียงประดับกระจกเป็นลวดลายจำหลัก นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูปโบราณแบบต่าง ๆ ซึ่งตรงซุ้มประตูได้ประดิษฐานพระพุทธรูปรวม ๔ องค์และพระพุทธรูปปางต่าง ๆ อีก ๕๐ กว่าองค์ ที่อยู่ภายในสถานที่แห่งนี้
The Marble Temple
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะพระอุโบสถ พระระเบียง ประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี ประกอบกับเป็นวัดที่มีความวิจิตรงดงามด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมไทยโบราณที่มีความวิจิตรงดงามและเป็นระเบียบ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดที่มีการวางแปลนแผนผังที่ดีที่สุดวัดหนึ่ง
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจให้เราได้เยี่ยมชม เช่น อนุเสาวรีย์ประจำรัชกาลที่ ๕ , ต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ต้นใหญ่ที่อยู่ด้านหลังพระอุโบสถ รวมถึงสะพานแดงที่เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินภายในวัดให้เราได้ถ่ายรูป
ภาพเขียนลายไทยที่ฝาผนังในพระอุโบสถ โดยช่างกรมศิลปปากร
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร
ที่อยู่ : ๖๙ ถนนพระรามที่ ๕ แขวง ดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๐๐
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/watbencham/