เจอน่าน Journey
13 Sep 2023 15:29:30แผนที่
Your STAMM Book
มาสะสม STAMM เพื่อเก็บบันทึกเรื่องราวดีๆ ระหว่างทางกันเที่ยวน่าน กินลมชมหมอก ชีวิตต้องการธรรมชาติ ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้แนะนำให้มาพักผ่อนหย่อนใจที่จังหวัดน่าน สถานที่ธรรมชาติสุดฟินดินแดนแห่งความโรแมนติก ฤดูหนาวแล้วไม่ควรพลาดที่จะขึ้นเหนือเพื่อไปสัมผัสอากาศหนาวและไอหมอก ใช้ชีวิตเรียบง่ายสุดสโลว์ไลฟ์ พักผ่อนเอนกายปล่อยใจไปกับคนรักและธรรมชาติที่รายล้อมรอบตัว ปักหมุด 8 ที่เที่ยวน่าน ตามรอยไอหมอกกันเลย
ดอยเสมอดาว
ดอยเสมอดาวเป็นสถานที่เที่ยวสุดฮิตในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เป็นพื้นที่ที่มีลานกว้างโค้งไปตามสันเขา มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลอยู่ 888 เมตร เป็นดอยที่มีความสวยงามอลังการ มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จุดชมทะเลหมอกยามเช้าและชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ดอยเสมอดาว จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมตลอดทั้งปี แต่เปิดให้กางเต็นท์พักแรมได้เฉพาะเดือนตุลาคม - กุมภาพันธ์ ของทุกปีเท่านั้น ซึ่งความงดงามของดอยเสมอดาวก็จะเปลี่ยนแปลงต่างกันไปในแต่ละฤดู (ที่มา naturalsite)
ผาหัวสิงห์
ผาหัวสิงห์ตั้งอยู่ใกล้กับดอยเสมอดาว ปีนเขาหินปูนขึ้นไปอีก 200 ม. ถึงยอดผาหัวสิงห์ เป็นหน้าผาสูง 740 ม. จากระดับน้ำทะเล ผาหัวสิงห์ เป็นหน้าผาที่มีลักษณะคล้ายสิงโตนอนหมอบและหันหน้าไปทางทิศตะวันออก จึงเป็นที่มาของชื่อ ผาหัวสิงห์ ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดชมวิวดอยเสมอดาว บน ผาหัวสิงห์ เองก็เป็นจุดชมวิว 360 องศา ทิศเหนือมองเห็นอำเภอเวียงสา ทิศใต้เป็นวิวแนวเทือกเขา ทิศตะวันออกมองเห็น ผาชู้ แม่น้ำน่าน ทัศนียภาพทางทิศตะวันตก คือ อำเภอนาน้อย และถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง (ที่มา thailand tourism directory)
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ครอบคลุมพื้นที่ป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่านตอนใต้ ในท้องที่อำเภอนาน้อย อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน และอำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าสนเขา ป่าดิบเขา และป่าดิบแล้ง นอกจากนี้ยังมีต้นนางพญาเสือโคร่งในสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถานซึ่งจะบานสะพรั่งในช่วงฤดูหนาวของทุกปี (ที่มา nanoilocal)
ดอยภูคา
ดอยภูคาจะมีเมฆปกคลุมตลอดทั้งในฤดูฝนและฤดูหนาว ในป่ามีความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย ทั้งแม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว ลำน้ำว้า เลยทำให้ที่นี่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงดงามมาก ๆ และอีกไฮไลท์นึง ก็คือ การได้มาชม ดอกชมพูภูคา ที่มาจาก ต้นชมพูภูคา ถือว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่หายากที่สุดในโลกชนิดหนึ่งเลย และมีเพียงที่นี่ที่เดียวในไทยเท่านั้น โดยชมพูภูคานั้นจะออกดอกสีชมพูบานเป็นช่อสวย โดยเฉพาะในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่ดอกไม้นั้นสวยที่สุด นอกจากดอกไม้สวย ๆ บนดอยภูคาแล้ว ก็ยังมีที่เที่ยวธรรมชาติสวยๆ อย่าง น้ำตกภูฟ้า น้ำตกผาขี้นก น้ำตกตาดหลวง น้ำตกห้วยโกร๋น น้ำตกแม่จริม น้ำตกต้นตอง และถ้ำอีกหลายแห่ง ทั้ง ถ้ำผาแง่ม ถ้ำผาเก้า ถ้ำผาฆ้อง ถ้ำหลวง ถ้ำผาแดง เป็นต้น รวมไปถึงป่าปาล์มดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ของไทยอีกด้วยที่รวมกันอยู่ที่นี่ (ที่มา พาเที่ยวไทย)
หมู่บ้านสะปัน
บ้านสะปัน ที่ตั้งอยู่ในอำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ห่างจากบ่อเกลือภูเขาประมาณ 9 กิโลเมตร บ้านสะปัน เป็นชุมชนเล็กๆ แสนสงบ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขา มีลำธารไหลผ่าน และในช่วงหน้าฝนฤดูทำนา ยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของนาข้าวเขียวขจีได้อีกด้วย เรียกได้ว่าหากแวะมาเที่ยวบ่อเกลือภูเขาขับรถเลยไปอีกเพียงไม่กี่นาทีก็จะถึงหมู่บ้านสะปัน หรือบางคนก็เลือกที่จะพักค้างคืนที่หมู่บ้าน ภายในหมู่บ้านมีบรรยากาศที่น่ารักของหมู่บ้านเล็กๆ ริมน้ำว้า หมู่บ้านสะปันนี้อยู่ริมลำธารต้นสายแม่น้ำว้า ซึ่งเป็นธารสายหลักของหมู่บ้าน ลำน้ำว้าบริเวณนี้ไม่ได้ลึกหรือกว้างมากนัก ลักษณะเป็นลำธารมีโขดหินสวยงาม นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านมีทิวทัศน์ของทุ่งนาและภูเขาที่สวยงามหลายจุด ซึ่งมีฉากหลังเป็นภูเขาน้อยใหญ่ของดอยภูคา เช่น ในโรงเรียนบ้านสะปันที่ด้านหลังมีวิวทุ่งนาสวยงามจับใจ หรือ ที่บริเวณสะพานคอนกรีตข้ามแม่น้ำว้าก็มีวิวเขาสูงใหญ่ให้ชมกันด้วยเช่นกัน (ที่มา magic-ontours)
ดอยตีดู้ว์
ดอยตีดู้ว์ บ้านสองแคว ตำบลสะเนียน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม่อง ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 28 กิโลเมตร ดอยตีดู้ว์ ไฮไลท์ คือ จุดชมวิวที่ยื่นออกไปจากเชิงเขา ทำให้สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่ดูพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมาก ดอยตีดู้ว์ ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ เช่น การโล้ชิงช้าแบบชาวม้ง เช่าชุดชนเผ่าถ่ายรูป เดินชมแปลงสตอรอว์เบอรี่ และซื้อสินค้าเกษตรองชุมชน ดอยตีดู้ว์ เกิดจากความร่วมมือของ คุณณัฐวดี แซ่ลี กับชาวบ้าน และหน่วยงานต่าง ๆ ที่ช่วยกันสร้างทางเดินไม้ไผ่ออกไปจากเชิงเขา คำว่า "ดอยตีดู้ว์" เป็นภาษาของชาวเขา แปลว่า ใกล้ขอบฟ้า เนื่องจากที่นี่สูง 700 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้สามารถเห็นทะเลหมอกได้สวยงามมาก ๆ ดอยตีดู้ว์ เหมาะมากสำหรับคนที่อยากจะหนีชีวิตที่วุ่นวายเพื่อมาพักผ่อนหาความสงบสุข บนดอยตีดู้ว์ ไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่จะมีเครื่องปั่นไปซึ่งจะเปิดหลัง 6 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่มเท่านั้น ทำให้ไร้ซึ่งสีเสียง มีเพียงแสงตะเกียงที่ส่องสว่าง และความเต็มอิ่มกับทิวทัศน์ที่สวยงาม ดอยตีดู้ว์ หากนำเต้นท์มาเอง จะคิดค่าสถานที่ 50 บาท ถ้าเช่าเต้นท์ ราคาหลังละ 150 บาท สามารถนอนได้ 2 คน มีห้องน้ำ และห้องอาบน้ำไว้บริการ แต่จำกัดนักท่องเที่ยวที่จะมากางเต้นท์วันละ 10 หลังเท่านั้น (ที่มา lovethailand)
ดอยภูแว
ดอยภูแวตั้งอยู่ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ตามเส้นทาง ปัว-บ่อเกลือ-เฉลิมพระเกียรติ เป็นยอดเขาทุ่งหญ้า ไม่มีต้นไม้ใหญ่ มีความงดงาม รูปทรงแปลกตา เต็มไปด้วยหินผา ทุ่งหญ้าที่เกาะกุมยอดเขาสูงนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดน่าน เล่าขานกันมาว่าเขาสูงที่หนาวเย็นแห่งนี้ เป็นเมืองเก่าของบรรพบุรุษชาวน่าน หนทางแม้จะเหน็ดเหนื่อยยาวไกล แต่สิ่งที่นักผจญภัยจะได้พบ ย่อมคุ้มค่า ด้วยความสูง 1,837 เมตร จากระดับน้ำทะเล ใช้ระยะเวลาในการเดินเท้าประมาณ 6 ชั่วโมง ในระยะทางกว่า 8 กม. กว่า คุณจะพบกับจุดชมวิว 360 องศา กับทะเลหมอกสุดแสนตระการตา ตัดกับทุ่งหญ้าสีเขียวบนยอดภู พร้อมกับอากาศสุดหนาวเหน็บ แค่นี้ก็คุ้มค่ากับความเหนื่อย ที่นักผจญภัยทุกท่านจะต้องประทับใจ ดอยภูแว เป็นยอดเขาที่สวยที่สุดของเทือกเขาภูคา มีทางเดินขึ้น 2 เส้นทาง คือทางบ้านด่าน ทางสูงชันแต่ใกล้ และทางบ้านปางควาย ทางไม่สูงชัน แต่ไกลกว่า ไฮไลท์สำคัญอยู่ในช่วงบ่ายแก่ๆ ทุ่งหญ้าสีเขียวสดยามโดนแดดส่อง จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีทองตามแสงแดด เป็นภาพที่คุณจะไม่มีวันลืม (ที่มา nantourism)
ดอยผาชู้
ดอยผาชู้ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ที่นี่มีตำนาน เรียกว่า “ตำนานผาชู้” เจ้าเอื้องผึ้งซึ่งเป็นคู่รักกับเจ้าจันทน์ผา จำใจต้องแต่งงานกับเจ้าจ๋วง เจ้าเอื้องผึ้งเสียใจที่ไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดจากหน้าผา เจ้าจันทน์ผาตามมาพบว่า เจ้าเอื้องผึ้งได้กระโดด หน้าผาไปแล้ว จึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตามคนรักตกไปอยู่ใกล้กันและเจ้าจ๋วงได้เห็นหญิงที่ตนรักกระโดด หน้าผาไป จึงรู้สึก เสียใจและตัดสินใจกระโดดหน้าผาตามลงไปด้วยแต่กระเด็นห่างออกไปด้วยความรักแท้ ระหว่างเจ้าเอื้องผึ้งและเจ้าจันทน์ผา ในชาติต่อมาเจ้าเอื้องผึ้งจึงเกิดเป็นดอกกล้วยไม้เกาะอยู่ใต้ต้นจันทน์ผา และเจ้าจ๋วงก็เกิดเป็นต้นสนณ จุดที่ตกไปนั้นเอง ( จ๋วง เป็นภาษาเหนือแปลว่าต้นสน เอื้องผึ้ง แปลว่ากล้วยไม้) หน้าผาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า ผาชู้ นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา (ที่มา thailand tourism directory)
เจอน่าน Journey
13 Sep 2023 15:29:30
พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้กันยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น